ระบบประชุมทางไกล เป็นอีกสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้งานยิ่งในช่วงสภาวะวิกฤตด้วยโรคระบาดแบบนี้ การทำงานที่บ้าน (WFH) การประชุมจากที่บ้าน หรือการประชุมกับลูกค้าต่างสถานที่กัน โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ทำงาน หรือเดินทางมาพบปะกัน อาจจะด้วยเรื่องความปลอดภัยก็ดี เป็นนโยบายของบริษัทหรือรัฐบาล ล้วนแล้วแต่ต้องเคร่งครัดและต้องทำตามโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ

 

ดังนั้นเราจึงได้รู้จักระบบการประชุมออนไลน์ใหม่ๆ แต่เราจำเป็นต้องหาซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์ในการจัดการประชุมให้เหมาะสมกับองค์กรเราด้วยเช่นกัน โปรแกรมที่สามารถนำมาใช้งานประชุมทางไกล มีหลากหลายตัวให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นตัวฟรี หรือต้องมีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน แต่เอาละ ตัวฟรีก็มีข้อจำกัดการงานเช่นกัน ไม่มีของฟรีที่ใดในโลกนี้ ที่จะมาตอบโจทย์ของเราได้ดีทุกอย่าง อาจจะจำกัดเรื่องของเวลาการประชุม หรืออื่นๆ แล้วแต่สินค้านั้นๆ ถ้ากล่าวถึงซอฟท์แวร์ในการประชุมแล้วนั้น คงมีหลายตัวที่คุ้นๆ กันพอสมควร บางตัวก็แจ้งเกิดในโลกของการประชุมออนไลน์เลยทีเดียว เช่น Microsoft Team ,Zoom, Google Hangout, Cisco Webex, GoTo Meeting หรือแม้กระทั่ง Line ก็สามารถใช้เป็นการประชุมออนไลน์ได้เช่นกัน นี่ยังไม่รวมซอฟท์แวร์อื่นๆที่สามารถใช้งานได้อีก

 

จะเห็นได้ว่าโปรแกรมค่อนข้างเยอะพอสมควร ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งาน ความถนัดการใช้งาน บางตัวเป็นตัวทีใช้งานง่ายๆ ก็จะนิยมใช้กัน หรือบางโปรแกรม มีอยู่แล้วก็สามารถนำมาใช้งานต่อได้ การจะเลือกใช้อุปกรณ์ช่วยในการประชุม แล้วจะเลือกยังไงดีละ? คำตอบที่ได้ คงต้องขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนแล้วและแต่ละกลุ่มหรือแม้กระทั้งกลุ่มใหญ่ๆ หรือองค์กรที่ต้องมีความน่าเชื่อถือ ระบบภาพและเสียงต้อชัดเจน มีคนดูแลจัดการประชุมได้ เราจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่ดี ทราบแล้วละว่าต้องมีอะไรบ้าง

 


 

ต้องทราบอะไรบ้าง ก่อนการเลือกซื้อระบบประชุมทางไกล

  • โปรแกรมที่จะใช้ประชุมคืออะไร มีแล้วหรือยัง
  • ขนาดห้อง เท่าไร จำนวนคนทีประชุมเท่าไร ถ้าขนาดห้องใหญ่ อาจจะต้องเลือกอุปกรณ์ที่เพิ่มไมค์ได้ ไม่เช่นนั้น เสียงไม่พอแน่นอน หรือแม้กระทั่งห้องเป็นแบบใหน กระจก หรือพื้นแบบใหน ก็มีส่วนเรื่องของเสียงในการประชุมเช่นกัน
  • ต้องใช้กล้องด้วยหรือไม่ หรือจะใช้งานเฉพาะพูดและได้ยินเสียงเท่านั้น บางกรณีก็ต้องการแค่การพูดคุยเท่านั้น
  • ถ้าใช้กล้อง กล้องต้องการชัดมากน้อยแค่ใหน อันนี้สำคัญ บางหน่วยงาน ผู้ใช้งานต้องการภาพคมชัด ซูมได้ไกล เนื่องจากต้องให้ทาง Partner อีกที่ต้องดูสินค้าที่โชว์ด้วย อันนี้ต้องเลือกอุปกรณ์ที่กล้องดีๆ หน่อย
  • เวลาในการประชุมต้องการถือโน๊คบุ๊คเดินเข้ามาห้องประชุมด้วยหรือไม่ ถ้าไม่ต้องการเลยก็จะมีอีกโมเดลของการประชุม ซึ่งไม่ต้องมีโน๊ตบุ๊คก็สามารถประชุมได้เลย โดย sing in Account ก็สามารถทำการประชุมกับที่อื่นได้แล้ว
  • การจับภาพขณะประชุม บางหน่วยงานต้องการให้จับภาพคนที่คุย หรือใครเคลื่อนไหว ก็จะไปจับภาพคนนั้น ก็ต้อง หาโมเดลหรือรุ่นที่รองรับด้วยเช่นกัน
  • สถานที่การประชุม เราไม่อยากจะให้มีสายแกะกะภายในห้องประชุม ดูแล้วไม่สบายตา ก็สามารถเลือกอุปกรณ์ในการประชุม ที่เชื่อมต่อแบบไร้สายได้ อันนี้ขอเรียกว่า Smart Conference มีแค่ USB Dongle ตัวเดียวบนโต๊ะ ก็สามารถทำการประชุมแบบชิวๆได้เลย
  • หรืออีกแบบ อาจจะใช้งานอุปกรณ์การประชุมยี่ห้อหนึ่งและใช้งานซอฟท์แวร์ในการประชุมของเจ้านั้นไปเลยก็สามารถทำได้ บางยี่ห้อมีบริการแบบนี้รวมอยู่ด้วย ให้สะดวกในการใช้งานไปอีกแบบ เช่น มี 1 เครื่องที่สำนักงานใหญ่ และกระจายหลายๆ เครื่องไปยังสาขาต่างๆ ได้
  • สุดท้ายสำคัญสุด เมื่อเราทราบสิ่งที่มีอยู่และสิ่งที่ต้องการแล้ว งบประมาณในการจัดหาสินค้านี้ก็ต้องเหมาะสม และพอไปกันได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการเลือกใช้งานมีหลากหลายแบรนด์ และโมเดล ซึ่งจะต้องตอบโจทย์และคุ้มค่ากับความต้องการของเราจริงๆ
 

 

 

Plug & Pay หรือ Devices สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องที่มีอยู่ได้เลย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น

 

Room System ใช้งานกับ Software ที่มีอยู่โดย Sign In Account ที่มีสิทธิ์ใช้งานได้เลย เช่น MS Team ,Zoom,Cisco Webx

 

ระบบ Cloud System ของ Product แต่ละ Brand เช่น Yealink Meeting Cloud ,Cisco WebX , Poly Meeting หรืออื่นๆ
 

 


 

 

สนใจสินค้าหรือต้องการจะทดลองใช้งานก่อน สามารถติดต่อได้ตามช่องทางนี้