ในปัจจุบันมีเทคโนโลยี่เกี่ยวกับ Storage อยู่ 3 แบบหลักๆ ในเบื้องต้นของธุรกิจ เราก็มักจะใช้ SERVER ตัวแรกและตัวเดียวในบริษัทเรามาเป็น Storage ไปด้วย หาก Disk ไม่พอ เราก็จะทำการเพิ่ม External Disk ไปเรื่อยๆ ตามการขยายของบริษัท เขาเรียกการต่อ Storage แบบนี้ว่า DAS (Direct Attach Storage) ต่อมา พอบริษัทเริ่มโต เริ่มมี SERVER 2 ตัว 3 ตัว เริ่มจะต้องการเอาข้อมูลที่อยู่ใน SERVER มา Share กันใน Network เริ่มมีข้อมูลกลางที่ SERVER แต่ละตัวต้องมาเอา เช่น Application Server ที่แตกต่างกันในแต่ละ SERVER มาเอาข้อมูลใน Database SERVER ซึ่งก็ใช้งานร่วมกัน การที่จะนำ Storage ไปไว้หลังเครื่องใดเครื่องหนึ่งก็จะเกิดความเสี่ยง ก็เลยกลายเป็นเทคโนโลยี่ที่เรียกว่า NAS (Network Attach Storage) คือการนำ Storage SERVER ต่อเข้ากับ Network จะเป็น 100 Mbps หรือ 1 Gbps ก็แล้วแต่ แต่ปัญหาก็ยังเกิดขึ้นอีก หากมีการใช้งานมาก Traffic ที่อยู่ใน Network ก็จะลำบาก ลองคิดดู ขณะที่ SERVER ต้องการ Backup คุยกัน แต่ Client ที่อยู่ใน Network ก็ยังต้องคุยกันใน Network มันก็ทำให้วิ่งได้น้อยลง เกิดองค์กรมีคน 100 คน วิ่งบน 1 Gbps ก็วิ่งกันได้คนละ 10 Mbps เต็มที่ จึงทำให้เราอยู่ในยุคที่มีเทคโนโลยี่ใหม่เข้ามาช่วยนั้นคือ SAN (Storage Area Network) ทั้งนี้ก็แล้วแต่ละเลือกใช้ Storage กันว่าจะใช้แบบไหน ใช้ของเจ้าไหน แต่ละยี่ห้อก็มีความแตกต่างในเทคโนโลยี่ที่แตกต่างกันไป ทั้งในเรื่องของ Software บริหารจัดการ Storage และ เทคโนโลยี่การเก็บ Array ของการทำ RAID เพื่อป้องกัน Disk ให้มากที่สุด และเรื่องของการทำ Backup ที่รวดเร็วแตกต่างกันไป พูดพอแล้ว ก็มาดูรูปกันว่า DAS - NAS - SAN มันเป็นแบบไหน
เลือกแบรนด์ที่คุณคิดว่าชอบ
DATA PROTECTION (BACKUP)
DIRECT ATTACHED STORAGE (DAS)
NETWORK ATTACHED STORAGE (NAS)
STORAGE AREA NETWORK (SAN)
เลือกกลุ่มที่คุณคิดว่าใช่
เช็คสินค้าและราคา หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามช่องทางนี้