แบบที่ 1: USB CONNECT (BYOD) Bring Your Own Device
การนำอุปกรณ์ที่ใช้ในการประชุมทางไกลมาเชื่อมต่อโดยตรงกับ Notebook หรือ PC เพื่อช่วยในการประชุม เช่น กล้อง, ไมค์, ลำโพง หรืออุปกรณ์ All in one ที่มีให้เลือกใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประชุม ยังสามารถใช้งานกับโปรแกรมจัดการประชุมได้ทุกตัวที่เรามี โดยมีหลายแบรนด์ที่จำหน่ายในท้องตลาด เช่น Logitech, Yealink, Jabra, Polycom, Aver, Max HUB และอื่นๆ อีกมากมาย

ข้อดี: ไม่ว่าผู้ใช้งานจะใช้ Software อะไรในการประชุมทางไกล ก็สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

แบบที่ 2: CONFERENCE ROOM
เป็นชุดอุปกรณ์การประชุมสำหรับห้องประชุม (Conference room system) ซึ่งมีทั้งกล้อง ไมค์ และลำโพงในตัว สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมประชุม เช่น MS Teams, Zoom, Webex, Google Meet หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่รองรับ โดยเราสามารถนำ Account ที่มีอยู่ไป Sign In เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์เหล่านี้ได้เลย โดยไม่ต้องใช้งานผ่านโน๊ตบุ๊คหรือ PC เพียงแค่เดินเข้าห้องประชุมก็สามารถเข้าร่วมได้ทันที อุปกรณ์แบบนี้มีหลากหลายแบรนด์ เช่น Logitech, Yealink, Jabra, Polycom ให้เลือกใช้งานตามความต้องการและโปรแกรมประชุมที่มี

ข้อดี: ผู้เข้าร่วมประชุมไม่จำเป็นต้องมี Notebooks หรืออุปกรณ์อื่นๆ ก็สามารถเข้าร่วมประชุมได้ โดยอ้างอิงจาก Account ที่ Sign In ไว้กับอุปกรณ์ในห้องประชุมแล้ว
ข้อเสีย: จะใช้งานได้เฉพาะกับบางโปรแกรมที่ทำการ Sign In ไว้เท่านั้น บางอุปกรณ์ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Notebooks ของผู้ร่วมประชุมได้

แบบที่ 3: SOFTWARE CLOUD BRAND CONFERENCE
เป็นชุดอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับโปรแกรมการประชุมที่กำหนดมาโดยเฉพาะ เช่น หากซื้อ Hardware ของ Yealink ก็ต้องใช้งานโปรแกรม Yealink Meeting Cloud หรือหากซื้อยี่ห้ออื่นๆ ก็ต้องใช้โปรแกรมของยี่ห้อนั้นๆ ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เหมาะสำหรับการประชุมที่มีหลายสาขา โดยตั้งเครื่องไว้ที่ห้องประชุมแต่ละที่เป็นยี่ห้อเดียวกัน เน้นการใช้งานที่ง่ายและสะดวกสำหรับการประชุมออนไลน์ในองค์กรเดียวกัน