10 April, 2024 : By Admin Web3



ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คืออะไร จะเข้ามาแทนคนในการทำงานหรือไม่

 

ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างมาก จนมนุษย์อย่างเรา ๆ เริ่มหวาดกลัวว่าจะสูญเสียพื้นที่ในการจ้างงานลง เรามาเรียนรู้เกี่ยวปัญญาประดิษฐ์ หรือที่เรามักเรียกว่า AI ให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ ว่ามันคืออะไร? และจะเข้ามาแทนที่มนุษย์ในการทำงานหรือไม่

 

 

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คืออะไร

 

ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่เลียนแบบความฉลาดของมนุษย์ เช่น การเรียนรู้ การสร้าง และการจดจำ การวางแผน และการแก้ไขปัญหา เป็นต้น โดย AI จะเรียนรู้จากพฤติกรรมมนุษย์หรือการป้อนข้อมูลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ระบบการทำงานของ AI ประกอบด้วยการรับข้อมูล วิเคราะห์ และประมวลผล ออกมาเป็นคำตอบซึ่งสามารถออกมาได้หลายรูปแบบแล้วแต่เรากำหนด ไม่ว่าจะเป็นเสียง รูปภาพ ข้อความ หรือการกระทำ

 

ปัจจุบัน AI สามารถเก็บและเรียนรู้ข้อมูลได้เป็นจำนวนมหาศาล และสามารถดึงข้อมูลมาใช้เพื่อวิเคราะห์และตัดสินใจได้ในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ผลิตภาพมากขึ้น งานหลายอย่าง AI ก็สามารถทำได้รวดเร็วกว่ามนุษย์ ทั้งยังทำงานได้ 24/7

 

แล้วมนุษย์อย่างเราจะตกงานหรือไม่ ?

 

ในอดีต AI จะถูกนำมาใช้ในการทำงานที่ต้องทำงานแบบซ้ำ ๆ เป็นกิจวัตร เช่น งานเอกสาร ระบบการจอดรถ หรือเสิร์ฟอาหาร ฯลฯ แต่ปัจจุบันเทคโนโลยี AI ได้พัฒนา Generative AI ที่ใช้คิดงานสร้างสรรค์ เช่น งานเขียน การสร้างภาพ การเขียนโค้ด หรือแม้แต่การสร้างดนตรี โดยระบบนี้จะนำข้อมูลที่มีอยู่จาก Cloud มาประมวลผลและสร้างชิ้นงานขึ้นมาใหม่ Adobe ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่พัฒนา Generative AI ที่ชื่อว่า Firefly ซึ่งทำงานโดยการป้อน prompt text ที่เป็นไอเดียจาก creator ให้ออกมาในผลลัพธ์เป็นรูปภาพที่ต้องการ

 

 

หากคุณสนใจสั่งซื้อซอฟต์แวร์ที่มี Adobe Firefly เพื่อให้งานสร้างสรรค์ของคุณง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สั่งซื้อและติดต่อสอบถามได้ที่เว็บไซต์ https://itsolution.co.th/ โดยบริษัท IT Solution ซึ่งเป็นตัวแทนระดับ Platinum Reseller ของ Adobe เพื่อให้คุณได้รับการบริการและสนับสนุนที่มีคุณภาพเพื่อการใช้งานที่ราบรื่น

 

 

ผลการศึกษาล่าสุดของ Resume Builder ที่รายงานการวิเคราะห์กลุ่มผู้นำธุรกิจ 750 รายที่ใช้ AI พบว่า 37% ระบุว่า AI ได้เข้ามาแทนที่พนักงานในปี 2023 ส่วน 44% ระบุว่า จะมีการปลดพนักงานในปี 2024 เพราะการเข้ามาของ AI แต่ธุรกิจขนาดเล็กก็ยังไม่ได้ใช้ AI เข้ามาทำงาน ( TheStandard,2023.)

 

ซึ่งอาชีพปัจจุบันที่จะได้รับผลกระทบจากพัฒนาการของ AI เช่น

  • พนักงานเสมียน AI จะช่วยเขียนข้อมูลขั้นพื้นฐาน หาเทรนด์ของข้อมูล หรือหาช่วงเวลาในการประชุมของคนที่อยู่คนละซีกโลกได้
    ตัวอย่างเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยงานเสมียน คือ “ Microsoft 365 Copilot” ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI ที่จะช่วยให้การทำงานเอกสารของเราง่ายขึ้นด้วยการคุยผ่าน Chat ทั้งยังสามารถสร้างรูปภาพ วิเคราะห์มูลจากเอกสารหนึ่งมายังเอกสารหนึ่งในระยะเวลาอันสั้น
  • นักแปล สามารถใช้แปลภาษาได้หลากหลายภาษา สามารถแปลและเรียบเรียงได้ในระดับดี แม้ยังไม่ครบทุกภาษา และยังไม่ถูกใช้อย่างกว้างขว้างนัก
  • โปรแกรมเมอร์ สามารถใช้งานเขียนโปรแกรมที่ไม่ซับซ้อนอย่างถูกต้องได้ แต่โปรแกรมเมอร์ระดับผู้เชี่ยวชาญก็ยังคงจำเป็นสำหรับงานเขียนโค้ดอยู่
  • บริการหลังการขาย ใช้ ChatBot รวมไปถึงวิเคราะห์ข้อมูลความรู้สึกของลูกค้า เหลือเพียงงานที่มีความซับซ้อน
  • ครู ใช้เพื่อออกแบบและวางแผนการสอน
  • นักกฏหมาย ให้ AI รับบทเป็นผู้ช่วยทนาย โดยช่วยค้นหาข้อมูลหรือเคสที่เกี่ยวกับคดี วิเคราะห์ความสำคัญ หรือวิจัยทางกฎหมาย
  • การเงิน สามารถจัดการฐานข้อมูลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเงินที่มีประสิทธิภาพ
  • กราฟิกดีไซน์ สามารถทำให้ผู้ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการแต่งภาพสร้างภาพที่ดูสมจริงได้ ตัวอย่างเช่น โปรแกรม Dall-E
  • วิศวกร สามารถใช้ย่นระยะเวลาการทำงานการออกแบบทางคอมพิวเตอร์ โดยจะช่วยคิดไอเดียการออกแบบ และแก้ปัญหาการออกแบบทางคอมพิวเตอร์จากการให้รูปแบบสมการ
  • HR หาผู้สมัครงาน ตรวจสอบ Resume ทำงานสรรหาบุคคลอัตโนมัติ โดยไม่มีอคติ แต่ก็ยังคงมีข้อเสียอยู่ คือไม่สามารถจัดการสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้ และอาจจะสรรหาบุคคลจากอคติโดยไม่ตั้งใจ เพราะแหล่งข้อมูลที่ AI ได้มายังไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้องทั้งหมด

จากข้อมูลข้างต้น แน่นอนว่าจะต้องมีแรงงานที่ได้รับผลกระทบและถูกเลิกจ้างงาน แต่ในปัจจุบันความสามารถของ AI ส่วนใหญ่ยังคงทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยมนุษย์และยังไม่สามารถเข้ามาแทนที่มนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ กล่าวคือ AI กำลังทำงานร่วมกับมนุษย์ เพื่อลดข้อผิดพลาดและเพิ่มผลิตภาพในการทำงานให้มากขึ้นเนื่องจากการพัฒนา AI จะต้องใช้ทรัพยากรทางคอมพิวเตอร์และเงินทุนอย่างมากมารองรับ ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่อาจไว้ใจความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องได้

 

 

นอกจากนี้ หากผู้ใดรู้หรือมีเหตุอันควรรู้ว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้นทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่น แต่ยังนำไปขาย มีไว้เพื่อขาย เสนอขาย ให้เช่า เสนอให้เช่า ให้เช่าซื้อ เผยแพร่ต่อสาธารณชน แจกจ่ายในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ นำเข้าหรือสั่งเข้ามาในประเทศไทย เพื่อหากำไร ก็มีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ โดยมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาทและหากเป็นการทำเพื่อการค้าผู้นั้นจะต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 บาทถึง 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

หากคุณสนใจซื้อซอฟต์แวร์ที่มีระบบ AI ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณ สามารถติดต่อ IT Solution ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์ระดับโลกมากมาย รวมถึง Adobe ที่มีระบบ Genarative AI ทั้งการจัดการเอกสาร (Acrobat) และรูปภาพ (Firefly) เราเป็นตัวแทนระดับ Platinum Reseller ของ Adobe เพื่อให้แน่ใจว่าท่านจะได้รับความปลอดภัยด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์ สามารถติดต่อได้ที่ https://itsolution.co.th หรือโทร 02-725-6400

 


 








 

เลือกดูสินค้าซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ได้ที่นี่ >>>  Adobe

สอบถามรายละเอียดโปรแกรมเพิ่มเติมได้ที่ 02-725-6400 , 084-424-2428

 

Tags : Adobe, ปัญญญาประดิษฐ์, AI, Artificial Intelligence, Genarative AI, Acrobat, Firefly, Prompt Text, ITSC, ITSolution