ขนาดหน้าจอ ส่วนนี้ถือว่ามีความสำคัญมากหากคุณจะใช้โน้ตบุ๊กเป็นหลักในการทำงาน เพราะหน้าจอที่ใหญ่ ก็หมายถึงพื้นที่ในการแสดงผลและการมองเห็นที่เพิ่มขึ้น โดยโน้ตบุ๊กส่วนมาก (ในปัจจุบัน) จะมีขนาดหน้าจอเริ่มต้นที่ 13.3 นิ้ว ไปจนถึงขนาด 17.1 นิ้ว ซึ่งส่วนนี้อาจจะดูที่งานที่ทำเป็นหลัก แต่อย่างน้อย IT Solution แนะนำให้คุณเลือกหน้าจอขนาด 14 นิ้วขึ้นไป แต่ไม่เกิน 16 นิ้ว จะอยู่ในขนาดที่กำลังพอดี และโน้ตบุ๊กจะไม่มีน้ำหนักเยอะจนเกินไป

หน่วยประมวลผล หน่วยประมวลผลถือเป็นหัวใจสำคัญของโน้ตบุ๊ก และเป็นส่วนที่ทำให้โน้ตบุ๊กนั้นแตกต่างจาก PC เพราะในโน้ตบุ๊ก (รุ่นส่วนใหญ่) จะไม่สามารถ Custom ส่วนนี้ได้ เมื่อเลือกแล้วก็ต้องใช้หน่วยประมวลผลรุ่นนั้นๆ ไปตลอด ดังนั้นจึงสำคัญมากในการเลือก เพราะนอกจากจะต้องเลือกหน่วยประมวลผลที่เข้ากับงานที่ทำแล้ว ก็ควรเลือกรุ่นใหม่ๆ เพื่อให้รองรับการอัปเดตในระยะยาวอีกด้วย

CPU หากเป็น CPU ค่าย Intel ควรเลือกที่ Intel 12th หรือ 13th Gen เลย, AMD Ryzen อาจจะเลือกรหัสที่เป็น 7xxx ขึ้นไป เช่น Ryzen 5 7520 ขึ้นไป และ Apple M ก็อาจจะยังเลือก M1 ได้อยู่ แต่เราแนะนำเป็น M2 ขึ้นไป เพราะเป็นรุ่นใหม่และมั่นใจได้ว่ารองรับในระยะยาว

GPU ส่วนนี้โน้ตบุ๊กบางรุ่นมี แต่บางรุ่นก็อาจจะไม่มี เพราะใช้ GPU ที่ On Board บน CPU ได้เลย ส่วนนี้เราอาจจะมองให้สอดคล้องไปกับจุดประสงค์ในการเลือกซื้อว่า จะนำไปทำอะไร ถ้านำไปทำงานทั่วไป GPU ก็อาจจะไม่จำเป็นนัก แต่ถ้านำไปใช้เล่นเกมกราฟิกสูงๆ หรือไปทำงานด้านกราฟิกและวิดีโอ ก็อาจจะต้องเลือกโน้ตบุ๊กที่มาพร้อมกับ GPU ไม่ว่าจะเป็น Nvidia หรือ AMD Radeon รุ่นใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูง

ความจุตัวเครื่อง ความจุตัวเครื่องนั้นก็สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นเช่นกัน เพราะทุกคนอาจจะรู้กันว่า ความจุยิ่งเยอะก็ยิ่งเก็บข้อมูลได้มากขึ้น ยิ่งหน่วยความจำเยอะ ก็สามารถรันงานหรือเปิดโปรแกรมได้ไหลลื่น และได้หลายตัวมากขึ้นอีกด้วย

RAM ปัจจุบัน RAM โน้ตบุ๊กควรมีขั้นต่ำเริ่มต้นอยู่ที่ 8GB ถึงจะใช้งานได้โอเคในระดับหนึ่ง แต่โน้ตบุ๊กส่วนมากก็จะสามารถเพิ่มแรมได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหากใช้ทำงานทั่วไป อาจจะเลือกซื้อเป็น 8GB ก่อนได้ แต่ถ้าเน้นเล่นเกมหรือตัดต่อกราฟิกและวิดีโอ RAM เริ่มต้นที่มากับเครื่องควรเป็น 16GB ขึ้นไป เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาถอดเครื่องประกอบ RAM เพิ่ม เพราะในการเล่นเกมกับทำงานกราฟิกนั้น RAM 8GB ไม่พออย่างแน่นอน

ROM ส่วนนี้คือหน่วยความจุในตัวเครื่อง ที่ใช้เก็บไฟล์ รูปภาพ เกม และโปรแกรมต่างๆ ซึ่งในยุคปี 2024 อย่างน้อยควรเริ่มต้นที่ 512 GB จะไม่ตึงมือเกินไป ในกรณีที่ทำงานทั่วไป ความจุเท่านี้อาจจะเหลือเฟือ แต่ถ้าเริ่มไปสู่การเล่นเกมหรือทำกราฟิกแล้ว ความจำอย่างน้อยที่ควรเลือกซื้อนั้น ควรจะเริ่มต้นที่ 1TB เพื่อให้เก็บเกมหรือไฟล์ภาพ+วิดีโอขนาดใหญ่ได้อย่างเพียงพอ

ระบบปฏิบัติการ ระบบปฏิบัติการนั้นส่วนมากแล้วผู้ผลิตก็จะให้ติดเครื่องมาเลย และหลักๆ ก็เป็น Windows หรือ macOS อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็อาจจะถามตัวเองว่า อยากใช้ระบบปฏิบัติการค่ายไหน เพราะทั้ง 2 ค่ายก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ถ้าเน้นความเปิดกว้าง ก็อาจจะไปที่ Windows หรือถ้าเน้นโปรแกรมเฉพาะทางหรือประสิทธิภาพสูง ก็อาจจะมองไปที่ macOS

แบตเตอรี่ แบตเตอรี่นั้นก็เป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะโน้ตบุ๊กเกิดมาเพื่อการพกพา ก็ย่อมต้องมีแบตเตอรี่เพื่อให้ใช้งานตอนที่ไม่เสียบชาร์จได้ และการเลือกแบตเตอรี่นั้นเราอาจจะไม่ได้มีความจุที่เป๊ะๆ มาบอกทุกคน แต่อาจจะอ้างอิงจากระยะเวลาการใช้งานที่ผู้ผลิตแต่ละแบรนด์แจ้งในเว็บไซต์ ซึ่งอย่างน้อยควรเลือกโน้ตบุ๊กที่สามารถสแตนด์บายหรือใช้งานได้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อให้ยังพอจะมีเวลาในการใช้งานแบบไม่ต้องเสียบปลั๊กได้บ้าง หรือถ้าเน้นใช้งานแบบเสียบปลั๊กอยู่แล้ว ส่วนนี้ก็อาจจะไม่ต้องกังวลมากนัก เพียงแค่เลือกอายุแบตให้สามารถถอดสายแล้วนำไปประชุมได้โดยที่แบตเตอรี่ไม่หมดระหว่างใช้งานก็เพียงพอ

น้ำหนักและขนาด น้ำหนักและขนาดก็เป็นส่วนสำคัญ เพราะเป็นส่วนที่บอกถึงความสะดวกในการพกพาของเราได้ด้วย แน่นอนว่าคงไม่มีใครจะอยากแบกโน้ตบุ๊กขนาดเทอะทะ ที่มีน้ำหนักกว่า 3 กิโลกรัมไปบ่อยๆ เพราะคงสร้างความเมื่อยให้ไม่น้อย ดังนั้น การเลือกโน้ตบุ๊กก็อาจจะโฟกัสไปที่น้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม หรือประมาณ 1.5 กิโลกรัมจะกำลังดี ไม่หนักเกินไป และไม่เบาเกินไป เพราะบางครั้ง โน้ตบุ๊กที่น้ำหนักเบาก็มีราคาสูง

พอร์ตการเชื่อมต่อ ปัจจุบันการทำงานมีความนิยมในการเชื่อมต่อโน้ตบุ๊กกับอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติมมากมาย ทั้งจอแสดงผล ลำโพง ที่ชาร์จ คีย์บอร์ด เมาส์ Portable Disk หรืออื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการนำเสนองาน พอร์ตการเชื่อมต่อจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องโฟกัส อย่างน้อยใน 1 เครื่อง จะต้องมีพอร์ตชาร์จ 1 ช่อง พอร์ตเชื่อมต่อการแสดงผล (HDMI) 1 ช่อง พอร์ต USB Type-C 1 ช่อง และพอร์ต USB แบบปกติอย่างน้อย 2 ช่อง เพื่อให้ใช้งานได้อย่างพอดี ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อเพิ่มช่องเชื่อมต่อให้เปลืองพื้นที่พกพา แต่ถ้ามีความจำเป็นก็ยังสามารถซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วงติดตัวไว้ได้ เพื่อให้สามารถรับมือได้ในทุกสถานการณ์